
I'm UX Architect, believe in..
DESIGN THAT EVOKES DESIRABLE EXPERIENCE
" Over 8 years in advertising industry, Lory brings a multidimensional experience throughout each phase of idea development and design composition. He specializes in providing cutting-edge concepts, combined with design thinking he can execute creative solutions that greatly leverage user experience.
UX Design
Advertising
Film
Others
“นักการเมือง คือ คนที่ทำเพื่อเมือง ส่วนเรื่องคะแนนเสียงสำหรับผมไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญ..”
ลอรี่ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญให้ทัศนะส่วนตัว ที่น่าจะบรรยายความแปลกใหม่ ไม่เหมือนนักการเมืองอาชีพเลยซักนิด
ด้วยความที่คุณลอรี่ พงศ์พล เป็นผู้ประกอบการสายสตาร์ทอัพ และทำงานด้านดีไซน์ในนิวยอร์ค ประเทศอเมริกามานาน.. เค้ามองตัวเองเป็นนักแก้ปัญหา มากกว่านักการเมือง ..โมเดลนี้เหมือนกับสตาร์ทอัพ คือBusiness Unit ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งานก่อน เมื่อคอนเซ็ปท์มันไปได้ ..ค่อยประคองตัว ระดมทุนให้องค์กรมีรายได้พอเลี้ยงตัวเองต่อไป
ลอรี่ จึงมุ่งเน้นลงพื้นที่เพื่อเข้าใจปัญหาท้องที่, จุดคันในชุมชน (Pain Point) เอาไปวิเคราะห์-ประเมิณ เพื่อหาsolutionที่เหมาะเจาะที่สุดเพื่อแก้ปัญหาแต่ละท้องที่ เอาทีมเข้าช่วยเหลือ ..และแน่นอน เมื่อทีมงานไม่ได้มีงบสนับสนุนจากภาครัฐ …ทีมจะทำการFundraising เพื่อหางบประมาณจากกลุ่มบุคคล, หน่วยงานที่อยากช่วยเหลือ เพราะเค้าเห็นผลงานที่แก้ปัญหาให้คนในชุมชนชัดเจน .. เช่น ปัญหาที่ทีมลอรี่เจอ จากการลงชุมชนไปกว่า 14 ชุมชน รอบเขตวัฒนา-คลองเตย เหมือนๆกัน คือเรื่องความปลอดภัย จากการที่แสงสว่างไม่เพียงพอ, ซอยและถนนหนทางเปลี่ยวยามดึก ที่อาจแก้ไขจากการติดตั้งไปโซล่าเซลในบางจุด..
อีกทั้งปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือเรื่องสถานการณ์โควิด ชาวบ้านต้องการการเยียวยาเฉพาะหน้า ในแง่ของอาหาร, ยารักษาโรค ..ซึ่งทีมงานลอรี่ก็ได้มีการจัดปันสรร ถุงยังชีพกว่าพันถุง, นม, ยาสมุนไพร, อาหารแห้ง, ชุดPPE และ ชุดตรวจAntigen ให้ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ..มีการส่งหน่วยม้าเร็วของทีม วิ่งไปSwab Test ให้กับชาวบ้าน แม่และเด็กในชุมชน.. ตัวอย่างเช่นมีเคสคนจรจัด ที่เร่ร่อนในพื้นที่คลองเตยที่ไม่มีคคนเหลียวแล ทีมงานลอรี่เข้าตรวจ ก่อนที่จะตรวจพบผลเป็นบวก และทีมงานได้มีการส่งตัวเข้ารพ. กล้วยน้ำไทในลำดับถัดมา
นอกจากแนวทางการเยียวยาชาวบ้านเฉพาะหน้า ..ทีมงานลอรี่ มีการสนับสนุนศูนย์พักคอยผู้ป่วยภายในพื้นที่ เพื่อการดูแลและคัดแยก ซึ่งเป็นทางออกของปัญหาที่ยั่งยืนกว่า.. อย่างศูนย์พักคอยมัสยิดบ้านดอน, ศูนย์พักคอยมัสยิดสามอิน ในเขตวัฒนา.. ทีมงานจัดส่งถุงยังชีพ, แอลกอฮอล์ และสนับสนุนข้าวสาร- วัตถุดิบ สำหรับการทำครัวเลี้ยงผู้ป่วยในศูนย์พัก.. อีกทั้งสนุบสนุน ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลสนาม อย่างรพ.สนามวัดสะพาน ของท่านเจ้าอาวาส พระวินยานุวัติคุณ
ท่ามกลางพรรคการเมืองมากมาย ที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย.. พรรคกล้า น่าจะเป็นจุดลงตัวที่สุดที่ลอรี่เข้าร่วมงานด้วย.. เพราะนอกจากนโยบายการลงมือทำเข้าช่วยประชาชนอย่างเต็มที่ และไม่ต้องดราม่ากับใคร.. หัวหน้า, เลขาธิการ และผู้บริหารพรรคทุกท่าน ล้วนมีความตั้งใจจริงในการสร้างสถาบันการเมืองเล็กๆ ที่จะสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ ..ลอรี่ เห็นพ้องกับพรรคกล้าเป็นพิเศษในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก เพราะทุกประเทศที่เจริญแล้ว รากฐานเศรษฐกิจต้อง เริ่มจากSMEs บริษัทขนาดเล็ก-กลาง ที่เข้มแข็ง เพื่อการกระจายรายได้ที่ดีกว่า การขึ้นกับบริษัทยักษ์ไม่กี่เจ้าที่ผูกขาดหมดทั้งอุตสาหกรรม อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ส่วนช่วงPost-Covid ลอรี่เห็นว่า ประเทศที่จะพัฒนาไปได้ไกลและเร็วที่สุด.. ต้องตื่นตัวในการปรับนโยบาย 3ส่วนใหญ่ๆ เพราะตัวไวรัสมันจะไม่หมดหายไปจากโลก..
1) ส่วนแรกนโยบายสาธารณสุขมาตราฐานใหม่ ส่งเสริม New-Normalให้เกิดขึ้นอย่างมีรูปธรรม.. ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์, รถไฟฟ้า ต้องมีfacilityที่แบ่งโซนนิ่งพื้นที่คนให้ยืนไม่แออัด.. ราวจับ หรือ ตามประตูทางเข้า มีเซนเซอร์ฉีดน้ำยา หรือรังสีUVB เพื่อฆ่าเชื้อ ..นี่เป็นมาตรการเล็กๆ น่าจะเป็นส่วนที่สร้างความเชื่อมั่นให้บรรยากาศการทำงาน, จับจ่ายซื้อของภายในเมือง รวมถึงดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ให้ครึกครื้นขึ้นได้อีกครั้ง..
2) อีกทั้งการพัฒนาเทคโนโลยี ที่เอื้อแก่การWFHแบบเอกชน ทำแพลทฟอร์ม GovTech ของรัฐ ที่ช่วยให้การติดต่องานกับราชการ เป็นไปได้โดยง่ายด้วยระบบออนไลน์100% ลดการcontactสัมผัส ลดความเสี่ยง.. ไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ที่ไม่จำเป็น ตามที่เห็นในภาพข่าว ช่วงรุมฉีดวัคซีนตามสถานที่ที่รัฐจัดไว้
3) สุดท้ายส่งเสริมเรื่อง E-Commerceเต็มรูปแบบ ตัวอย่างจากประเทศมาเลเซีย ที่ 3เดือนก่อนมีการล็อคดาวน์ทั้งประเทศ รัฐมีโปรแกรมช่วยเหลือร้านค้าSMEs ด้วยการส่งหน่วยงานเอาร้านค้าผู้เฒ่าผู้แก่ ที่เข้าไม่ถึงช่องทางขายออนไลน์ ให้ความรู้และเอาเข้าแพลตฟอร์ม E-commerce ที่เป็นพาร์ตเนอร์อย่าง Lazada Malaysia ทำให้ตลาดE-commerce เติบโตสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.. เป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทย ที่ยังไม่ได้มีการดูแลใส่ใจร้านค้า, ธุรกิจตัวเล็กๆกลุ่มนี้เลย ..ซึ่งน่าจะช่วยขับเคลื่อน ตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศได้อีกมาก