"หวยแพง" แก้ด้วยเทคโนโลยี ..อย่าบี้แต่มังกรฟ้า 🐉🎫

หวย กับวัฒนธรรมไทย เป็นสิ่งที่แกะแยกจากกันแทบไม่ออก ด้วยความที่เป็นสังคมวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยความเชื่อ.. ถูกจริตยิ่งนักกับ “หวย” เศษกระดาษสีฉูดฉาดใบนึง


อะไรที่ทำให้ ผู้คนยอมจ่ายเงินกว่าร้อยบาท เพื่อให้ได้มาเพื่อครอบครอง?

.

.

มูลค่าแท้จริงของหวย มันคือ “ให้ความหวัง” (Providing Hope) ให้กับชนชั้นกลาง-ล่าง เพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจ.. สะท้อนสภาพสังคม-เศรษฐกิจบ้านเราอย่างจัง ที่คนทำงานรู้สึกหมดหวัง กับการทำงานหนัก ที่กินเอ็มร้อยไปวันๆ เค้าจึงต้องการซื้อ"ความหวัง" เผื่อว่าวันนึง จะได้รู้ว่าความมั่งคั่งรสชาติเป็นอย่างไร

.

.

แต่ปัญหาอยู่ที่การขายหวยเกินราคา ใบละ80.- เกิดจากอะไร.. และรัฐเคยพยายามผลิตเพิ่ม เพราะคิดว่าปัญหาอยู่ที่ความต้องการซื้อ (Demand) มากกว่าจำนวนหวยที่มี (Supply) ดังนี้


◾ พ.ศ. 2557 พิมพ์สลากงวดละ 37 ล้านใบ /งวด

◾ พ.ศ. 2558 พิมพ์เพิ่มเป็น 50 ล้านใบ /งวด

◾ พ.ศ. 2559 พิมพ์เพิ่มเป็น 65 ล้านใบ /งวด

◾ พ.ศ. 2560 พิมพ์เพิ่ม 71 ล้านใบ /งวด

◾ ปัจจุบัน พิมพ์เพิ่มเป็น 100 ล้านใบ/งวด

.

.

แต่กระนั้นเลย ก็ไม่อาจแก้ปัญหาราคาปลีก ดังกล่าวได้ เพราะทั้ง 100ล้านใบนั้น ไม่ได้ถูกกระจายออกไป ..แต่กลับติดอยู่กับ ตัวละครลับในวงการไม่กี่คน.. นั่นทำให้หวยแพงขึ้นเหมือนเดิมทั้ง 100ล้านใบ

.

.

ล่าสุด “มังกรฟ้า” ผู้ให้บริการตลาดแลกเปลี่ยนหวย ผ่านทางออนไลน์ ถูกจับกุมโดย คณะอนุกรรมการ แก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งเกินราคา… แถมยังประกาศจะดำเนินคดี กับผู้ที่นำสลากมาขาย และแบนการให้โควต้าตลอดชีพ ..ซึ่งในแพลตฟอร์มมังกรฟ้า มีผู้ค้าร่วม 3.9หมื่นคน... โทษนี้ หนักเกินไปหรือไม่?

.

.

ในความเห็นผม คิดว่าแทนที่รัฐ จะลงโทษขนานหนัก ควรมองและทำความเข้าใจในพฤติกรรม ของการซื้อหวย ที่เปลี่ยนไปมากกว่า.. การไปซื้อที่แผงเริ่มไม่สะดวก ในช่วงวิกฤติ, ผู้บริโภคต้องซื้อเลข on-demand ที่เค้ามองไว้

.

.

การไปโทษแพลตฟอร์มใหม่ อย่างมังกรฟ้า ว่าเป็นตัวการที่ทำให้ราคาหวยปั่นป่วน ก็จะเป็นการเหมารวมเกินไป... ราคาปลีกที่ขายเกิน 80.-นั้น จริงแล้วมีมานานมากแล้ว.. ซึ่งต้นตอเกิดจากหลายเหตุ หลายผลประโยชน์ ทั้งเรื่องการจัดสรรไม่เป็นธรรม, เรื่องนอมินี, เรื่องยี่ปั๊วรายใหญ่กว้านซื้อ, เรื่องการรวมเลขชุด ....ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ทำให้สลากราคาแพง มานมนาน ที่รอการแก้ไข

.

.

แทนที่รัฐจะมองว่า มังกรฟ้า เป็นปฏิปักษ์ ควรใช้เค้าเป็นกรณีศึกษา.. หากข้อกฎหมายข้อไหนผิดก็ว่าไปตามนั้น และโทษของผู้ประกอบการมังกรฟ้านั้น ..รัฐควรให้เค้าชดใช้ด้วยการทำงานให้กองสลาก ให้ความรู้ วางรากฐานการขายสลากแบบ "แสกน-จ่าย-จบ" ทางออนไลน์ร่วมกับภาครัฐแทนที่... อย่างที่ต่างชาติเค้าลงโทษแฮ๊คเกอร์เก่งๆ ด้วยการจ้างงานมาร่วมมือกับภาครัฐแทน

.

.

อย่าเอาแต่แก้ปัญหาโดยใช้อำนาจ แต่ต้องพยายามเอาคนที่มีความสามารถ เข้ามาร่วมมือ ปรับบริการการขายสลากจากการขาย Decentralized system แบ่งให้ตัวแทน(ที่ไม่ค่อยโปร่งใส) ..คนพิการดันไม่ได้โควต้า คนได้โควต้าดันเป็นนอมินีแบบนี้

.

.

เป็นระบบ Centralized โดยรัฐเป็นคนขายตรงผ่านระบบออนไลน์ จะผ่านทางแอป "เป๋าตัง" อย่างที่เป็นข่าวก็ย่อมได้ หรือจะทำให้คนเล่น สามารถเลือกเลขท้ายที่พวกเค้าต้องการ ตามระบบล็อตโต้เมืองนอก ก็จะแก้ปัญหา demandจมได้เช่นกัน

.

.

ซึ่งด้วยวิธีนี้ กองสลากสามารถกำหนดราคาขายที่ 80.-/ใบ สู่ลูกค้าทุกคนอย่างเป็นธรรม และมีประสิทธิภาพขึ้น ..ตามแผงที่ยังต้องวาง ให้คนไม่เข้าถึงเทคโนโลยีซื้อบ้าง.. ก็จะเหลือน้อยจุดขาย ทำให้สอดส่องดูง่ายขึ้น

.

.

..ส่วนเรื่องการขาย Reselling ขายต่อเลขสวย-เลขชุด จากคนสู่คน... ตามบริการ marketplace


ตามหลักโลกทุนนิยมแล้วเป็นเรื่องปกติ ในต่างประเทศจึงเกิดบริการคล้ายกันขึ้นมากมาย เช่น Stubhub, SeatGeek, VividSeat, eBay ที่เป็นตลาดขายต่อของ-ตั๋วคอนเสิร์ต เก็งกำไรกันเป็นเรื่องปกติ ทำหน้าที่เหมือนตลาดการลงทุนอย่างหนึ่ง

.

.

ปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไก ดีกว่าครับ



Previous
Previous

สลากกินแบ่ง ..ไม่ใช่สลาก ”แบ่งกิน”

Next
Next

เอกสิทธิ์ สส. มีไว้ทำไม??