ไทยขึ้นแท่น หยุดเยอะอันดับ5 ของโลก🏆 ..กับผลทางเศรษฐกิจ

◾ เชื่อมั้ยครับ จากปกติประเทศไทย มีวันหยุดราชการ 19วัน.. ได้มีการประกาศเพิ่มวันหยุดพิเศษ สำหรับปี2565 อีก 4วัน.. ทำให้มีวันหยุดรวมทั้งสิ้น 23วัน ขึ้นเป็นอันดับ 5 ..ตามหลัง อันดับหนึ่ง พม่า(32วัน), อันดับสอง เนปาล (30วัน), อันดับสี่ ศรีลังกา(25วัน)

.

ขึ้นชื่อว่า "วันหยุด" คนไทยหลายล้านคน ก็คงวงปฏิทินรอคอย โดยเฉพาะกับภาคคนทำงาน.. แต่หากหยุดมากเกินไปล่ะ จะส่งผลกระทบอย่างไรกับภาพรวม? มาดูกันเลย..

.

👷🏽 คนทำงาน:


หยุดเยอะ ได้พักผ่อนหย่อนใจ ลดความเหนื่อยล้า เพื่อให้กลับมาทำงานอย่างมีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มประสิทธิภาพขึ้น


หยุดเยอะไป>> เนื่องจากเม็ดเงินมีจำกัดเท่าเดิม แต่ออกเที่ยวมากขึ้น สถานะครอบครัวฝืด และอาจเกิดอาการหดหู่-เกียจคร้าน จากภาวะหมดไฟหลังวันหยุดยาว (Post-Vacation Blues)

.

‍💼 ภาคผู้ประกอบการ:


พร้อมหยุดให้ลูกจ้างแค่ 13วัน/ปี (รวมวันแรงงาน) ตามกฏหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541


หยุดเยอะไป>> อาจทำให้ภาคเอกชนเสียหาย บรรยากาศการทำงานไม่ต่อเนื่อง .. บางธุรกิจต้องจ่ายเงินextra เพิ่มให้พนักงานบริการที่ต้องมาทำงานในวันหยุด ..ในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย มีกฏหมายบังคับให้จ้างค่าจ้างเพิ่ม 50% สำหรับการให้มาทำงานในวันหยุดราชการ

.

🏛 ภาครัฐ:

หวังกระตุ้นให้เกิดรายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยวในประเทศ


หยุดเยอะไป>> หากหยุดยาวบ่อย จะเกิดการไหลออกของเม็ดเงินไปต่างประเทศ เพราะตามสถิติหากวันหยุดยาวเกิน 3วัน.. เช่น 4-5วัน ช่วงช่วงปลายกรกฎานี้ ผู้บริโภคจะมีแนวโน้ม ออกเที่ยวต่างประเทศสูงขึ้นอย่างมีนัยยะทันที

.

ลองดูกรณีศึกษาประเทศอเมริกา ตั้งแต่ปี 1971 เค้ามีกฏหมายเรียกว่า Uniform Monday Holiday Act หรือ "หยุดยาววันจันทร์" ที่เค้าพยายามเพิ่มให้เกิดวันหยุดติดกัน 3วันบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในประเทศ.. สิ่งที่เค้าทำคือใช้วิธีเขยิบวันหยุดที่ตรงกับวันกลางสัปดาห์ ให้ always-on-Monday คือเลื่อนมาชนเป็นวันจันทร์ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดฟันหลอวันหยุด ใช้แล้วทั้งกับ Labor Day, Memorial Day เป็นต้น

.

แต่มองดูครม.เรา ดันประกาศให้หยุดฟันหลอเพิ่ม วันศุกร์ที่ 15 และวันศุกร์ที่ 29 กค 2565 เพื่อทำให้เกิดวันหยุดยาว 4วัน 2ครั้งในเดือนเดียวกัน.. จึงไม่น่าเป็นแนวทางที่ดีนัก กับทุกภาคส่วน เพิ่มความเนือย


Productivity ประสิทธิภาพการทำงานทั้งเดือนกค. น่าจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีวันหยุดรวม ถึง 15วัน/เดือน เมื่อรวมเสาร์-อาทิตย์แล้ว


ขณะที่การหวังให้เม็ดเงินการท่องเที่ยวไหลภายในประเทศ ยังเป็นคำถาม ว่าจริงหรือไม่ ในเมื่อยอดจองเที่ยวบินไฟล์ทไปต่างประเทศ สูงขึ้นอย่างมีนัยยะ จากสัปดาห์หยุดยาวทั้งสอง

.

เพราะฉะนั้น ผลข้างเคียงของวันหยุดมีทั้งดี และไม่ดี ทางครม.ไทย ต้องบาล๊านซ์ให้เหมาะสม สำหรับปีถัดๆไป.. การพิจารณาใช้ #หยุดยาววันจันทร์ ลดฟันหลอ สามารถใช้กับวันหยุดอย่างวันแรงงาน หรือวันรัฐธรรมนูญ น่าจะเป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติที่สมดุลย์กว่า

.

เพื่อที่ทำให้ภาคแรงงาน มีความสุข, ภาคธุรกิจไม่เสียหาย และ ภาครัฐได้อากร เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศจริงๆ